Saturday 28 April 2012

อัลฟัลฟา มหัศจรรย์

โภชนารักษาโรค
“อัลฟัลฟา” หญ้ามหัศจรรย์
 
 
อัลฟัลฟา (Al-fal-fa) แปลว่า บิดาของอาหารทุกชนิด (Father of all foods) เนื่องจากรากของ “อัลฟัลฟา” หยั่งลึกลงไปใต้ดินลึกมาก จนสามารถดูดซึมเอาแร่ธาตุใต้ดินที่อยู่ลึกมากๆ จนไม่มีรากพืชชนิดใดสามารถหยั่งลึกลงไปเอาได้
       “อัลฟัลฟา” เป็นพืชธรรมชาติ ที่มีวิตามิน เอ, ดี, อี, เคและโปรตีนสูง มีแร่ธาตุต่างๆ อยู่อย่างสมบูรณ์  อาทิเช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส, โปแตสเซียม, ซิลิคอน, คลอรีนและธาตุเหล็ก ที่สำคัญคือ มีคลอโรฟิลล์ช่วยระงับกลิ่นปาก

ประโยชน์ของ “อัลฟัลฟา” หญ้ามหัศจรรย์ต่อสุขภาพ
    1.ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารต่างๆ  เช่น มีแก๊สในกระเพาะ เกิดอาการแน่นจุกเสียดเป็นประจำและโรคเบื่ออาหาร โดยพบว่า “อัลฟัลฟา” นี้มีวิตามินยู ซึ่งมีประโยชน์ต่อการรักษาโรคกระเพาะ ดร.กาเนนท์ แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าวว่า วิตามินยู มีศักยภาพในการรักษาโรคกระเพาะ (Pepticulcers)
     2.ช่วยในการขับถ่ายปัสสาวะให้เป็นปกติ และยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายตามธรรมชาติอย่างอ่อนๆ อีกด้วย
        3.ช่วยทำให้กระดูกและฟันของเด็กแข็งแรง เนื่องจาก “อัลฟัลฟา” ประกอบไปด้วย วิตามินดี แร่ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
        4.ช่วยเพิ่มน้ำนมในสตรีให้นมบุตร
        5.ช่วยให้เจริญอาหาร
       6.ช่วยการแข็งตัวของเลือด เพราะใน “อัลฟัลฟา” 100 กรัม มีวิตามินเค สูงถึง 20,000-40,000 ยูนิต
       7.เป็นแหล่งแคลเซียมและฮอร์โมนเอสโตรเจน เหมาะสำหรับสตรีวัยหมดประจำเดือน
       8.ช่วยให้ผิวพรรณสะอาด ลดปัญหาการเกิดสิว
      9.ช่วยรักษาอาการปวดตามข้อ จากหนังสือของ แคทเทอรีน เอทวูท ชื่อ “Feel like amillion” ได้กล่าวถึงความมหัศจรรย์ของ “อัลฟัลฟา” อัดเม็ดที่หมอประจำครอบครัวได้ให้คนไข้ของเขารับประทาน วันละ 18 เม็ด (โดยรับประทานครั้งละ 6 เม็ด วันละ 3 ครั้ง) เพื่อรักษาอาการปวดตามข้อของคนไข้ ก็ได้รับรายงานจากคนไข้ว่าสามารถงอมือได้สะดวกขึ้น และความเจ็บปวดก็หายไป

ผู้ที่ควรรับประทาน “อัลฟัลฟา” เป็นอาหารเสริม
     1.ผู้ที่ไม่ชอบรับประทานผักเป็นอาหารเสริมประจำวัน
       2.ผู้ที่มีปัญหาเจ็บปวดที่ข้อต่อกระดูก เพราะมี Phyto estrogen
       3.ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารและลำไส้
       4.ผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงทวาร บรรเทาอาการท้องผูก
       5.ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณ ลดการเกิดสิว

No comments:

Post a Comment