Wednesday 9 May 2012

เมล็ดทานตะวัน


โภชนาการรักษาโรค
เมล็ดทานตะวัน
 
 
           ทานตะวันเป็นพืชน้ำมันล้มลุก ที่รู้จักกันทั่วโลกมีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาเหนือ สามารถเติบโตได้ดีในสภาพอากาศหนาวเย็น และทนต่อความแห้งแล้งได้ดี ขึ้นได้ดีเกือบทุกประเภทดินที่มีความอุดมสมบูรณ์

การแบ่งประเภทของทานตะวัน
       สามารถแบ่งทานตะวันออกได้เป็น 2 ประเภท ตามลักษณะการใช้ประโยชน์ คือ
          1.ประเภทนำเมล็ดมาประกอบอาหาร ในรูปของน้ำมันและแป้ง ทานตะวันประเภทนี้จะมีลักษณะเด่น คือ ลำต้นโตเดี่ยว และให้ดอกได้เพียงดอกเดียว ต่อ 1 ต้น ดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ครึ่งฟุตหรือมากกว่านี้เล็กน้อย ลำต้นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์
          2.ประเภทใช้เป็นไม้ประดับ ทานตะวันประเภทนี้มีลำต้นเล็ก และมีแขนงแยกออกมาจากลำต้นใหญ่มีดอกเล็กๆ จำนวนมาก จึงทำให้เมล็ดทานตะวันประเภทนี้มีขนาดเล็ก

การใช้ประโยชน์ของเมล็ดทานตะวัน
       ปัจจุบันพบว่าเมล็ดทานตะวันมีประโยชน์ในทางเศรษฐกิจมากขึ้น สามารถนำมาทำเป็นอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากเมล็ดทานตะวันได้  เช่น
          1.สกัดน้ำมันสำหรับปรุงอาหาร จะใช้พันธุ์ที่มีเมล็ดเล็ก สีดร เปลือกบางจะสามารถให้น้ำมันมาก
          2.ใช้คั่วทำเป็นอาหารขบเคี้ยว หรืออาหารว่าง จะใช้พันธุ์ที่ให้เมล็ดใหญ่ เปลือกมีลายสีน้ำตาลอ่อน เทา เปลือกหนาไม่ติดกับเนื้อใน
          3.บดเป็นแป้งทำขนม หรืออาหาร ซึ่งจะมีโปรตีนสูง และยังให้แคลเซียม วิตามินอี, วิตามินอี และธาตุ เหล็ก เท่ากับธาตุเหล็กในไข่แดง
          4.ใช้เป็นอาหารสัตว์

เมล็ดทานตะวันมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร
       เมล็ดทานตะวันมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่า ข้าวโพด ประกอบด้วยโปรตีน 22-23% น้ำมัน 22-40%, ธาตุเหล็ก, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, วิตามินเอ, เค, บี2, ดี, ซี, และวิตามินอี เมล็ดทานตะวันที่ปลูกในประเทศไทยประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว โอลิอิคสูงกว่า 65% จะช่วยให้น้ำมันเกิดการหืนช้าลง กรดไขมันไม่อิ่มตัวลิโนเลอิค มากกว่า 50% กรดไขมันอิ่มตัวที่พบในเมล็ดทานตะวันไม่มีคอเลสเตอรอล แต่กลับช่วยดึงเอาคอเลสเตอรอลชนิดเลวในร่างกายมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ปัจจุบันแพทย์ยอมรับว่าการผสมเมล็ดทานตะวันในอัตราส่วนที่เหมาะสมลงในอาหารอาจใช้ในรูปของน้ำมันจะสามารถรักษาโรคบางชนิดได้  เช่น ไอ หวัด หลอดลมอักเสบ ช่องคลอดอักเสบโรคติดเชื้อในปอดและโรคเกี่ยวกับโลหิตต่างๆ
          ในเมล็ดทานตะวันวิตามินอีธรรมชาติที่มีคุณค่าสูง และโปรตีนจากทานตะวันก็มีคุณค่าสูงกว่าโปรตีนจากพืชอื่นๆ เทียบได้กับโปรตีนจากถั่วเหลืองโปรตีนจากทานตะวันจะเท่ากับ 93% ของ โปรตีนจากไข่ ขณะที่โปรตีนจากถั่วเหลืองมีคุณค่า 62% และถั่วลิสง 69%

ประโยชน์ของเมล็ดทานตะวันในรูปของวิตามินอี
       1.ช่วยชะลอความแก่ของผิว วิตามินอีจะทำหน้าที่ป้องกันไขมันที่ผนังเซลล์มิให้ถูกทำลายโดยออกซิเจน จึงทำให้ผิวพรรณสดใส เต่งตึง
           2.ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยแก้ปัญหาหลอดเลือดอุดตัน ป้องกันเม็ดเลือดแดงจับตัวเป็นก้อน ช่วยให้การสูดฉีดโลหิต และการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น
           3.บำรุงสายตาป้องกันต้อกระจก
           4.ป้องกันการเกิดมะเร็ง วิตามินอีจะช่วยลดปริมาณสาร ไนโตรซามีนให้น้อยลง ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
           5.ป้องกันความผิดพลาดในการสืบพันธุ์ ป้องกันการเป็นหมัน การมีบุตรยาก การคลอดก่อนกำหนด การแท้ง ช่วยให้ระบบประจำเดือนของสตรีวัยใกล้หมดประจำเดือนเป็นปกติ
           6.ป้องกันเนื้อเยื่อปอดถูกทำลายจากอากาศ อากาศที่เป็นมลพิษจะมีก๊าซที่เป็นอันตรายต่อร่างกายปนอยู่ ก๊าซพิษเหล่านี้จะไปทำลายผนังเซลล์ของเนื้อเยื่อปอด โดยจะทำปฏิกิริยากับส่วนประกอบของไขมันในผนังเซลล์ วิตามินอีจะช่วยป้องกันโดยทำปฏิกิริยากับส่วนประกอบของไขมันในผนังเซลล์ วิตามินอีจะช่วยป้องกันโดยทำปฏิกิริยากับก๊าซพิษเหล่านี้ และกำจัดออกจากร่างกาย


No comments:

Post a Comment