โภชนาการรักษาโรค
เมล็ดทานตะวัน
ทานตะวันเป็นพืชน้ำมันล้มลุก
ที่รู้จักกันทั่วโลกมีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาเหนือ
สามารถเติบโตได้ดีในสภาพอากาศหนาวเย็น และทนต่อความแห้งแล้งได้ดี
ขึ้นได้ดีเกือบทุกประเภทดินที่มีความอุดมสมบูรณ์
การแบ่งประเภทของทานตะวัน
สามารถแบ่งทานตะวันออกได้เป็น 2 ประเภท ตามลักษณะการใช้ประโยชน์ คือ
1.ประเภทนำเมล็ดมาประกอบอาหาร
ในรูปของน้ำมันและแป้ง ทานตะวันประเภทนี้จะมีลักษณะเด่น คือ ลำต้นโตเดี่ยว
และให้ดอกได้เพียงดอกเดียว ต่อ 1 ต้น
ดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ครึ่งฟุตหรือมากกว่านี้เล็กน้อย ลำต้นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์
2.ประเภทใช้เป็นไม้ประดับ
ทานตะวันประเภทนี้มีลำต้นเล็ก และมีแขนงแยกออกมาจากลำต้นใหญ่มีดอกเล็กๆ จำนวนมาก
จึงทำให้เมล็ดทานตะวันประเภทนี้มีขนาดเล็ก
การใช้ประโยชน์ของเมล็ดทานตะวัน
ปัจจุบันพบว่าเมล็ดทานตะวันมีประโยชน์ในทางเศรษฐกิจมากขึ้น
สามารถนำมาทำเป็นอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากเมล็ดทานตะวันได้ เช่น
1.สกัดน้ำมันสำหรับปรุงอาหาร
จะใช้พันธุ์ที่มีเมล็ดเล็ก สีดร เปลือกบางจะสามารถให้น้ำมันมาก
2.ใช้คั่วทำเป็นอาหารขบเคี้ยว หรืออาหารว่าง จะใช้พันธุ์ที่ให้เมล็ดใหญ่
เปลือกมีลายสีน้ำตาลอ่อน เทา เปลือกหนาไม่ติดกับเนื้อใน
3.บดเป็นแป้งทำขนม หรืออาหาร ซึ่งจะมีโปรตีนสูง และยังให้แคลเซียม
วิตามินอี, วิตามินอี และธาตุ เหล็ก เท่ากับธาตุเหล็กในไข่แดง
4.ใช้เป็นอาหารสัตว์
เมล็ดทานตะวันมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร
เมล็ดทานตะวันมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่า
ข้าวโพด ประกอบด้วยโปรตีน 22-23% น้ำมัน 22-40%, ธาตุเหล็ก, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, วิตามินเอ, เค, บี2, ดี, ซี, และวิตามินอี เมล็ดทานตะวันที่ปลูกในประเทศไทยประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว
โอลิอิคสูงกว่า 65% จะช่วยให้น้ำมันเกิดการหืนช้าลง
กรดไขมันไม่อิ่มตัวลิโนเลอิค มากกว่า 50% กรดไขมันอิ่มตัวที่พบในเมล็ดทานตะวันไม่มีคอเลสเตอรอล
แต่กลับช่วยดึงเอาคอเลสเตอรอลชนิดเลวในร่างกายมาใช้ให้เกิดประโยชน์
ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
ปัจจุบันแพทย์ยอมรับว่าการผสมเมล็ดทานตะวันในอัตราส่วนที่เหมาะสมลงในอาหารอาจใช้ในรูปของน้ำมันจะสามารถรักษาโรคบางชนิดได้ เช่น ไอ หวัด หลอดลมอักเสบ
ช่องคลอดอักเสบโรคติดเชื้อในปอดและโรคเกี่ยวกับโลหิตต่างๆ
ในเมล็ดทานตะวันวิตามินอีธรรมชาติที่มีคุณค่าสูง
และโปรตีนจากทานตะวันก็มีคุณค่าสูงกว่าโปรตีนจากพืชอื่นๆ
เทียบได้กับโปรตีนจากถั่วเหลืองโปรตีนจากทานตะวันจะเท่ากับ 93% ของ โปรตีนจากไข่ ขณะที่โปรตีนจากถั่วเหลืองมีคุณค่า 62% และถั่วลิสง 69%
ประโยชน์ของเมล็ดทานตะวันในรูปของวิตามินอี
1.ช่วยชะลอความแก่ของผิว
วิตามินอีจะทำหน้าที่ป้องกันไขมันที่ผนังเซลล์มิให้ถูกทำลายโดยออกซิเจน
จึงทำให้ผิวพรรณสดใส เต่งตึง
2.ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยแก้ปัญหาหลอดเลือดอุดตัน
ป้องกันเม็ดเลือดแดงจับตัวเป็นก้อน ช่วยให้การสูดฉีดโลหิต และการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น
3.บำรุงสายตาป้องกันต้อกระจก
4.ป้องกันการเกิดมะเร็ง วิตามินอีจะช่วยลดปริมาณสาร ไนโตรซามีนให้น้อยลง
ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
5.ป้องกันความผิดพลาดในการสืบพันธุ์ ป้องกันการเป็นหมัน การมีบุตรยาก
การคลอดก่อนกำหนด การแท้ง ช่วยให้ระบบประจำเดือนของสตรีวัยใกล้หมดประจำเดือนเป็นปกติ
6.ป้องกันเนื้อเยื่อปอดถูกทำลายจากอากาศ
อากาศที่เป็นมลพิษจะมีก๊าซที่เป็นอันตรายต่อร่างกายปนอยู่
ก๊าซพิษเหล่านี้จะไปทำลายผนังเซลล์ของเนื้อเยื่อปอด
โดยจะทำปฏิกิริยากับส่วนประกอบของไขมันในผนังเซลล์ วิตามินอีจะช่วยป้องกันโดยทำปฏิกิริยากับส่วนประกอบของไขมันในผนังเซลล์
วิตามินอีจะช่วยป้องกันโดยทำปฏิกิริยากับก๊าซพิษเหล่านี้ และกำจัดออกจากร่างกาย
No comments:
Post a Comment